...
วันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
วันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
การกวน การทำแยม และการรมควัน
การกวน คือ
การที่นำเนื้อผลไม้ที่สุกแล้วผสมกับน้ำตาล โดยใช้ความร้อน
เพื่อกวนผสมให้กลมกลืนกัน โดยมีรสหวาน และให้เข้มข้นขึ้น
การใส่น้ำตาลในการกวนมี 2 วิธี คือ ใส่น้ำตาลแต่น้อยใช้กวนผลไม้ เพื่อทำแยม เยลลี่ เป็นต้น และการกวนโดยใช้ปริมาณน้ำตาลมาก เช่น การกวนผลไม้แบบแห้ง เช่น กล้วยกวน สับปะรดกวน ทุเรียนกวน เป็นต้น
การใส่น้ำตาลในการกวนมี 2 วิธี คือ ใส่น้ำตาลแต่น้อยใช้กวนผลไม้ เพื่อทำแยม เยลลี่ เป็นต้น และการกวนโดยใช้ปริมาณน้ำตาลมาก เช่น การกวนผลไม้แบบแห้ง เช่น กล้วยกวน สับปะรดกวน ทุเรียนกวน เป็นต้น
การทำแยม เป็นการต้มเนื้อผลไม้ปนกับน้ำตาลด้วยไฟอ่อนในระยะแรก
แล้วค่อย ๆ เพิ่มไฟขึ้นทีละน้อย หมั่นคนสม่ำเสมอ จนกระทั่งแยมเหนียวตามต้องการ
กล่าวคือ เมื่อใช้ช้อนตักขึ้นแล้ว
การรมควัน เป็นการถนอมอาหารที่ต่างไปจากการ ตากแห้งธรรมดา
นอกจากจะทำให้อาหารแห้งแล้ว ยังช่วยรักษาให้อาหารเก็บได้นาน
มีกลิ่นหอมและรสชาติแปลกซึ่งเป็นที่นิยมกันมาก
การรมควันที่สามารถทำได้ในครอบครัวจะเป็นแบบธรรมชาติิโดยการสุมไฟด้วยไม้กาบมะพร้าว
ขี้เลื่อย ซางข้าวโพด
ให้แขวนอาหารไว้เหนือกองไฟใช้ไฟอ่อนๆเพื่อให้รมควันอาหารไปพร้อมกับไอร้อนจะช่วยทำให้อาหารแห้งเร็ว
เช่น รมควันปลา เป็นต้น
วิธีถนอมอาหารต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้ว
ล้วนเป็นภูมิปัญญาไทยที่ทุกครัวเรือนสามารถทำเองได้
และช่วยสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวอีกด้วย
http://signuphowto.blogspot.com/2012/02/blog-post_24.html
การเชื่อม
การเชื่อมเป็นวิธีถนอมอาหาร
โดยอาศัยสารน้ำตาลป้องกันไม่ให้อาหารนั้น เกิดการเปลี่ยนแปลงบูดเน่าเสียหาย
การถนอมอาหารโดยการเชื่อม 3 วิธี
ดังนี้
1. การเชื่อมแบบธรรมดา อาจเคี่ยวจนน้ำเชื่อมข้นเหนียว
น้ำเชื่อมแทรกซึมเข้าในเนื้อของสิ่งที่เชื่อมแล้วใช้น้ำเชื่อมที่เหลือแช่หล่อไว้อีกชั้นหนึ่ง
เช่น กล้วยเชื่อม สาเกเชื่อม ลูกตาลเชื่อม ขนุนเชื่อม เป็นต้น
หรืออาจเคี่ยวต่อไปจนน้ำเชื่อมแก่จัด เมื่อเย็นลงจะแห้งและแข็งตัว
การเชื่อมแบบธรรมดา
|
2. การถนอมอาหารด้วยการแช่อิ่ม เป็นการถนอมอาหารโดยใช้น้ำตาลปริมาณมาก
คือ นำอาหารมาแช่ในน้ำเชื่อม
และเปลี่ยนเพิ่มความเข้มข้นจนถึงจุดอิ่มตัวแล้วนำมาทำแห้ง มักใช้กับผลไม้ที่มีรสขม รสขื่น หรือรสเปรี้ยวจัด
ทำให้สิ่งนั้นรสจืดลงเสียก่อนโดยวิธีต่าง ๆ เช่น แช่น้ำเกลือ แช่น้ำปูน แช่สารส้ม
เป็นต้น ผลไม้ที่นิยมนำมาแช่อิ่ม เช่น มะม่วง มะขาม มะกอก มะยม เป็นต้น
3. การฉาบ เป็นการนำเอาผักหรือผลไม้ที่ทำสุกแล้ว เช่น เผือกทอด มันทอด กล้วยทอด เป็นต้น วิธีฉาบคือเคี่ยวน้ำตาลให้เป็นน้ำเชื่อมแก่จัดจนเป็นเกล็ด แล้วเทลงผสมคลุกเคล้ากับของที่ทอดไว้ ทิ้งไว้ให้เย็นจนน้ำเชื่อมเกาะเป็นเกล็ดติดอยู่บนผิวอาหารที่ฉาบ
ที่มา : http://signuphowto.blogspot.com/2012/02/blog-post_24.html
การดอง
การดอง โดยใช้จุลินทรีย์บางชนิดที่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์
โดยจุลินทร์ทรีย์นั้นจะสร้างสารบางอย่างขึ้นมาในอาหาร ซึ่งสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ตัวอื่นๆได้
ดังนั้นผลของการหมักดองจะทำให้อาหารปลอดภัยจากจุลินทร์ทรีย์ชนิดอื่นๆ
และยังทำให้เกิดอาหารชนิดใหม่ๆที่มีลักษณะแตกต่างไปจากเดิม เป็นการเพิ่มกลิ่น
และรสชาติของอาหารให้แปลกออกไป
การถนอมอาหารโดยการดองมีหลายวิธีดังนี้
2.1 การดองเปรี้ยว ผักที่นิยมนำมาดอง เช่น ผักกาดเขียว กะหล่ำปลี ผักเสี้ยน ถั่วงอก เป็นต้น วิธีทำคือนำเอาผักมาเคล้ากับเกลือ โดยผสมน้ำเกลือกบน้ำส้มต้มให้เดือด ทิ้งไว้ให้เย็น นำมาเทราดลงบนผักที่เรียงไว้ในภาชนะ เทให้ท่วมผักปิดฝาภาชนะไม่ให้ลมเข้า หมักทิ้งไว้ 4-7 วัน ก็นำมารับประทานได้
2.2 การดอง 3 รส คือ รสเปรี้ยว เค็ม หวาน ผักที่นิยมดองแบบนี้คือ ขิงดอง กระเทียมสด ผักกาดเขียน การดองชนิดนี้คือ นำเอาผักมาเคล้ากับเกลือแล้วผสมน้ำส้ม น้ำตาล เกลือ ต้มให้เดือด ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วนำมาเทราดลงบนผักปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน ก็นำมารับประทานได้
2.3 การดองหวาน ผักและผลไม้ที่นิยมนำมาดอง เช่น มะละกอ หัวผักกาด กะหล่ำปลี เป็นต้น โดยต้มน้ำตาล น้ำส้มสายชู เกลือ ให้ออกรสหวานนำให้เดือดทิ้งไว้ให้เย็น เทราดลงบนผักผลไม้ ทิ้งไว้ 2-3 วัน ก็นำมารับประทานได้
2.4 การดองเค็ม อาหารที่นิยมส่วนใหญ่จะเป็นพวกเนื้อสัตว์และผัก เช่น ปูเค็ม ปลาเค็ม กะปิ หัวผักกาดเค็ม ไข่เค็ม เป็นต้น ต้มน้ำส้มสายชูและเกลือให้ออกรสเค็มจัดเล็กน้อยให้เดือดทิ้งไว้ให้เย็น กรองใส่ภาชนะที่จะบรรจุอาหารดอง แล้วหมักทิ้งไว้ 4-9 เดือนจึงนำมารับประทาน
2.5 การหมักดองที่ทำให้เกิดแอลกอฮอล์ คือการหมักอาหารพวกแป้ง น้ำตาล โดยใช้ยีสต์เป็นตัวช่วยให้เกิดแอลกอฮอล์ เช่น ข้าวหมาก ไวน์ เป็นต้น
การตากแห้ง
การตากแห้ง เป็นวิธีที่ง่ายและประหยัดมากที่สุด
ใช้ได้กับอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ เป็นวิธีที่ทำให้อาหารหมดความชื้นหรือมีความชื้นอยู่เพียงเล็กน้อย
เพื่อไม่ให้จุลินทรีย์สามารถเกาะอาศัยและเจริญเติบโตได้
ทำให้อาหารไม่เกิดการบูดเน่า โดยการนำน้ำหรือความชื้นออกจากอาหารให้มากที่สุด เช่น
เนื้อเค็ม ปลาเค็ม กล้วยตาก เป็นต้น
ก่อนตากแห้งจะต้องล้างให้สะอาด
ถ้าเป็นพวกผักมักลวกด้วยน้ำเดือดเสียก่อน ทำให้หยุดยั้งปฏิกิริยาเคมี
บางรายนิยมนำเอาผลไม้ไปรมควันกำมะถันอ่อน ๆ ก่อนที่จะตากแห้ง
ซึ่งจะช่วยให้มีสีและรสดีขึ้น
ทั้งยังป้องกันไม่ให้เกิดรสเปรี้ยวและช่วยกันไม่ให้แมลงกัดกินอีกด้วย อาหารที่นิยมถนอมโดยการตากแห้ง
มักเป็นประเภทผัก ผลไม้ และเนื้อ เช่น ดีปลี พริก (พริกไทย) เห็ดบางชนิด (เช่น
เห็ดแครงที่ขึ้นตามต้นไม้มะขามที่ล้มตาย เป็นต้น) หมากแห้ง (ฝานก่อนตาม) กล้วยตาก
(กล้วยสุกปอกเปลือกแล้วตากแห้ง) ลูกหยี (ปอกเปลือกแล้วตากแห้ง) ส้มแขก (ผลไม้ชนิดหนึ่ง
ผลกลม หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ แล้วตากแห้ง ใช้ในการปรุงอาหาร) เนื้อเค็ม ปลาเค็ม
เป็นต้น
การตากแห้งอาหารประเภทเนื้อ มักใช้เกลือช่วยเพื่อกันการบูดเน่า
และช่วยให้มีรสชาติดีขึ้น เช่น หอยตาก
(หอยน้ำจืดชนิดหนึ่งคล้ายหอยแครงแต่ขนาดเล็กว่า ชอบอยู่ในทะเลสาบ อาจลวกให้สุกด้วยน้ำเกลือที่ร้อนจัด
หรือคลุกเกลือแล้วตากแดด
โดยมากนิยมใช้วิธีหลังจึงเรียกหอยชนิดนี้ตามกรรมวิธีที่นิยมนั้นว่าหอยตาก) ปลาริ้ว
(ปลาช่อนตัวโต ๆ ที่นำมาผ่าเป็นริ้ว ๆ แล้วตากแห้ง) ปลาแห้ง (ปลาเกลือ) เนื้อแห้ง
(เนื้อเค็ม) เคย (กะปิ) บางชนิดต้มให้สุกเสียก่อนแล้วนำมาตากแห้ง
เช่น สารกุ้ง (กุ้งแห้ง) ข้าวเกรียบกุ้ง ข้าวเกรียบปลา เป็นต้น
ที่มา : http://signuphowto.blogspot.com/2012/02/blog-post_24.html
การดูแลเครื่องใช้ดินเผา
เครื่องเรือนที่ทำจากดินเผา
เครื่องปั้นดินเผาหรือเครื่องเคลือบดินเผา
เป็นวัสดุที่ผลิตมาจากดิน โดยเอาดินเหนียวมาผสมกับน้ำแล้วปั้นเป็นรูปร่างนำไปเข้าเตาเผา
และเคลือบน้ำยา เครื่องปั้นดินเผาส่วนใหญ่จะเป็นภาชนะเครื่องใช้ในการประกอบอาหาร
เช่น ถ้วย ชาม อ่าง มีราคาถูก
สิ่งที่ควรปฏิบัติในการใช้เครื่องปั้นดินเผาหรือเครื่องเคลือบ
· การเลือกใช้เครื่องปั้นดินเผาที่เผาสุกเคาะแล้วมีเสียงดังกังวาน
จะใช้งานได้ ทนทาน ไม่เปราะแตกง่าย
· เลือกใช้เครื่องเคลือบดินเผาที่ไม่ตกแต่งสีและลวดลายมาก
จะปลอดภัยจากสี และสารตะกั่วที่ใช้ทำลวดลาย
· การใช้ภาชนะบรรจุอาหาร
ควรเลือกที่เคลือบสีขาว ไม่มีจุดหรือรอยเปื้อนซึ่งเกิดจากความสกปรกขณะที่เคลือบ
หรือนำเข้าเตาเผา ควรเลือกชนิดที่ไม่มีรอยผิวราน เพราะจะทำให้เศษอาหาร น้ำ ซึ่งเข้าไปในเนื้อภาชนะเกิดรอยเปื้อนที่ล้างไม่ออก
หรืออาจเกิดเชื้อราทำให้อาหารที่ใส่ในภาชนะนั้นบูดเน่าเร็ว
วิธีดูแลรักษา
เครื่องเคลือบดินเผามักนำมาใช้บรรจุอาหาร
การดูแลรักษาจึงควรพิถีพิถันเป็นพิเศษ ล้างให้สะอาด แล้วคว่ำไว้ในที่คว่ำชาม
นำออกไปผึ่งแดดให้แห้งทุกครั้ง และหมั่นตรวจดูรอยแจก รอยร้าวที่เกิดขึ้น
ถ้าพบควรรีบคัดภาชนะนั้นออก ไม่นำมาใช้ต่อไป
เพราะรอยร้าวทำให้เศษอาหารเข้าไปสะสมอยู่ ทำให้บูดเน่า เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค
การเก็บรักษา
เมื่อภาชนะเครื่องใช้แห้งดีแล้ว
ควรเก็บเข้าตู้ทันที เพื่อ ป้องกันแมลง และพาหะนำโรค
ที่มา : www.trueplookpanya.com
การดูแลเครื่องเรือนพลาสติก
เครื่องเรือนที่ทำด้วยพลาสติก
|
พลาสติก
ในปัจจุบันได้เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น เพราะพลาสติกมีคุณสมบัติพิเศษหลายประการ
ได้แก่ มีความเหนียว ทนทาน แข็งแรง น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้สะดวก
และสามารถนำไปหลอมกลับมาใช้ใหม่ได้ เครื่องเรือนเครื่องใช้ที่ทำด้วยพลาสติก เช่น
จาน ชาม เก้าอี้ และถุงชนิดต่าง ๆ เป็นต้น
สิ่งที่ควรปฏิบัติในการใช้เครื่องใช้พลาสติก
1. ควรเลือกเครื่องใช้ที่ทำด้วยพลาสติกใสหรือขาวเพื่อความปลอดภัยจากสีที่
เจือปน
2. ไม่ควรใช้ภาชนะพลาสติกบรรจุอาหารที่ร้อนจัด
เพราะพลาสติกไม่ทนต่อความ
ร้อน
อาจเกิดการสลายตัวปะปนเข้าไปในอาหาร
3. ไม่วางเครื่องใช้พลาสติกไว้ใกล้เตาไฟ
หรือแหล่งความร้อนอื่น เพราะจะทำให้
เกิดการหลอมละลายเสียหาย
วิธีดูแลรักษา
1. ไม่ควรใช้ภาชนะพลาสติกใส่ของร้อนจัดจนเกินไป
เพราะพลาสติกอาจละลาย
เสียรูปทรง
และเป็นอันตรายจากการละลายของสารเคมี
2. พลาสติกที่มีส่วนผสมของสารโพลีไวนีลคลอไรด์
หรือ พีวีซี ใช้ทำขวด หรือ
ของเด็กเล่น
เป็นต้น อาจเป็นอันตรายจากการละลายของสารเคมีที่ไม่ควรนำมาใช้บรรจุของเหลวร้อน
3. การล้างทำความสะอาดพลาสติกประเภทเมลามีน
ใช้ล้างด้วยน้ำสบู่ หรือน้ำ
ผงซักฟอก
เช็ดให้แห้ง เก็บเข้าที่
4. ถ้าภาชนะเปื้อนไขมันคราบไคลต่าง
ๆ ให้ล้างด้วยน้ำอุ่น อย่าใช้ฝอยขัดหม้อที่
เป็นโลหะขัด
เพราะจะทำให้เป็นรอยขูดขีด
5. ถ้ามีกลิ่นอาหารให้ล้างด้วยน้ำส้มสายชู
หรือใช้เปลือกมะนาวถู แล้วล้างออก
ด้วยน้ำสะอาด
การเก็บรักษา
|
เครื่องใช้พลาสติกที่ทำความสะอาดแล้ว
วางซ้อนเก็บในตู้เก็บภาชนะเครื่องใช้ ส่วนเครื่องเรือนวางตั้งในห้องต่าง ๆ ใช้ผ้าคลุมป้องกันฝุ่นละอองหรือเก็บในห้องเก็บของ
ที่มา : www.trueplookpanya.com
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)